แผนธุรกิจเอเจล

แผนธุรกิจเอเจล

   เอเจล บริษัทที่มาแรงในช่วง 2-3 ปีมานี้ได้มีการปรับแผนการตลาด เชิงรุกเพื่อรองรับตลาดระดับรากหญ้ามากขึ้นอีก โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการสมัครดังนี้ 

      1. Silver ซื้อผลิตภัณฑ์เพียง 1 กล่อง (2500) พร้อมด้วยค่าสมัคร (600) และค่าขนส่ง (100) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3200 บาท แต่ท่านสามารถลงทุนด้วยจำนวนเงินเพียง 3000 บาทเท่านั้นครับ  

การเริ่มต้นธุรกิจแบบ Silver ท่านจะได้รับ PV (Personal Volume) หรือแต้มส่วนตัว 30 PV และผู้แนะนำจะได้ค่า Fast Strat 8 USD

      2. Gold ซื้อผลิตภัณฑ์ 4 กล่อง (10000) พร้อมด้วยค่าสมัคร (600) และค่าขนส่ง (100) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10700 บาท แต่ท่านสามารถลงทุนด้วยจำนวนเงินเพียง 10500 บาทเท่านั้นครับ  

การเริ่มต้นธุรกิจแบบ Gold ท่านจะได้รับ PV (Personal Volume) หรือแต้มส่วนตัว 125 PV และผู้แนะนำจะได้ค่า Fast Strat 35 USD

     3. Platinum ซื้อผลิตภัณฑ์ 12 กล่อง (30000) พร้อมด้วยค่าสมัคร (600) และค่าขนส่ง (100) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30700 บาท แต่ท่านสามารถลงทุนด้วยจำนวนเงินเพียง 29900 บาทเท่านั้นครับ  

การเริ่มต้นธุรกิจแบบ Platinum ท่านจะได้รับ PV (Personal Volume) หรือแต้มส่วนตัว 500 PV และผู้แนะนำจะได้ค่า Fast Strat 100 USD

แล้วเดี๋ยวเราจะมาต่อกันนะครับว่าการเริ่มต้นธุรกิจในแต่ละรูปแบบ ท่านจะได้รายได้และสิทธิประโยชน์ทางไหนกันบ้าง 

 อ้างอิงจาก http://thaimlm.info/agelplan/!!!-upgrade/ 

ส่วนการตอบแทนของรายได้ก็ต่างกัน โดยมี 10 ข้อ 

 อันนี้เป็นสิทธิประโยชน์ของ การสมัครแต่ละระดับนะครับ ส่วนรายละเอียดครับ

แผนการตลาด agel

การเริ่มต้นธุรกิจ รายได้ 7 + 3 ผลประโยชน์พิเศษ
“รายได้ดี สุขภาพดี ท่องเที่ยวต่างประเทศ และ รถเบนซ์”

รายได้ทางที่ 1

• กำไรจากการขายปลีก โดยกำไรขายปลีกจะอยู่ที่ 20%-25%

รายได้ทางที่ 2

รายได้จากการแนะนำผู้อื่น ที่สนใจในการร่วมธุรกิจ และท่านสปอนเซอร์ส่วนตัว โดยท่านจะมีรายได้ ที่เรียกว่า “Fast Start” ดังนี้

• แบบ Quick start ท่านจะได้รับ “Fast Start” จำนวน $8
• แบบ Personal ท่านจะได้รับ “Fast Start” จำนวน $15
• แบบ Executive ท่านจะได้รับ “Fast Start” จำนวน $100

รายได้ทางที่ 3

• รายได้ทีมอ่อน 10%
  คุณจะได้รับ 10% ของยอดธุรกิจ (CV) ของทีมอ่อน ทั้งสาย ไม่จำกัดชั้นลึก บนหลักการ 2 ทีมซ้าย-ขวา เทียบกัน
• รับรายได้สูงสุด 25,000$/เดือน/ศูนย์ธุรกิจ
  ถ้ามียอดส่วนตัวเกิน 200 CV จะได้รับ Personal Rebate จากยอดส่วนเกินอีก 10%
  จะ ได้รับรายได้ 10% เมื่อคุณมีดาวน์ไลน์ ที่คุณสปอนเซอร์ส่วนตัวอย่างน้อย 1 คน และดาวน์ไลน์คนนั้นต้องมียอดส่วนตัว 50 CV ขึ้นไป ในเดือนนั้น ๆ

การทำธุรกิจแบบ Personal จะสามารถสร้างทีมงานได้เพียง 2 สายงานเท่านั้น จึงต่างกับการมีธุรกิจแบบ 4 ส ายงาน ซึ่งสามารถทำได้ในธุรกิจแบบ Executive เท่านั้น

ตามภาพจะเห็นว่า หากท่านมี 4 สายงาน ท่่านก็จะได้รับรายได้ที่มากกว่า 2 เท่า ขณะที่คะแนนรวมของ ทั้ง 2 ข้าง เท่ากับที่ทำ 2 สายงาน

รายได้ทางที่ 4-5-6 โบนัสผู้บริหาร

โดยเฉพาะรายได้ทางที่ 4 จากกองทุน 3% ของยอดขายทั่วโลก

• โบนัสนี้จ่ายให้กับคนที่เพิ่งเริ่มธุรกิจ ที่มียอดธุรกิจน้อยกว่า 40,000 CV เท่านั้น
• บริษัทฯ จัดกองทุน 3% ของยอดขายทั่วโลก โดยจ่ายทุกเดือนไปยัง ผู้บริหารที่ดำรงคุณสมบัตินั้น
• ผู้ร่วมธุรกิจแบบ Personal จะไม่มีสิทธิในการรับกองทุนนี้
• ผู้ร่วมธุรกิจแบบ Executive จะได้รับ 1 หุ้นของยอดขายจากทุก ๆ 1000 CV ที่โตขึ้นในสายงานที่น้อยกว่า (โดยจะเปรียบเทียบจากยอดคะแนน ของเดือนปัจจุบันกับเดือนที่แล้ว ของสายงานที่น้อยกว่า) (Weak Leg – ขาอ่อน)
• ณ ปัจจุบัน ปี 2008 รายได้จากหุ้นอยู่ที่ หุ้นละ US$50-60

รายได้ทางที่ 7

เป็นโบนัสผู้นำจาก Matching 7 ชั้นลึก โดยปัจจุบันผู้ที่ได้รายได้สูงที่สุดในโลกรับรายได้ทางนี้ ประมาณ 60%-80% จากทางนี้ของยอดรายได้ทั้งหมด

 ตัวอย่าง
ตามรูปคนสีขาวคือผู้ที่ท่านแนะนำหรือสปอนเซอร์ส่วนตัว และร่วมธุรกิจ ซึ่งไม่ว่าเขาผู้นั้นจะอยู่ตำแหน่งใด ในสายงานชั้นใดก็ตาม บุคคลนั้นถือได้ว่าเป็นชั้นที่ 1 ของท่าน
โดยจากภาพจะเห็นว่ามีรูปคนสีขาว ซึ่งเป็นการจำลองว่าเป็นบุคคลที่ท่านไ้ด้ทำการสปอนเซอร์หรือแนะนำส่วนตัว (แต่ละคนสีขาวนั้น อาจอยู่ในชั้นลึกที่แตกต่างกัน)รายได้ทางนี้ จะคำนวณ จากยอดรายได้ทางที่ 3 ของแต่ละคน จากชั้นที่ 1 ทุกคน จนไปถึงชั้นที่ 7 (รายได้ 10% ของคะแนนรวมในสายงานข้างที่น้อยกว่า (Weak Leg-ขาอ่อน)
ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่า ทางบริษัทฯ ไม่มีการกำหนดในการตัดยอดทิ้งในชั้นที่ลึก หากแต่เป็นการคำนวณรายได้แบบ INFINITY

จากรูป – เป็นการคำนวณรายได้จากชั้นที่ 5 เพียงชั้นเดียว โดยในภาพจะเห็นว่าจากการที่ท่านแนะนำหรือสปอนเซอร์ 5 คน และ 5 คนที่ท่านแนะนำได้ทำการแนะนำต่อ ซึ่งจะทำให้สายงานในชั้นที่ 5 มีผู้ร่วมธุรกิจรวมจำนวนเป็น 3,125 คน ทั้งนี้ขอยกตัวอย่างให้เห็นในการคำนวณรายได้เพียงจำนวน 300 คนเท่านั้น (ในชั้นที่ 5)

รายได้จากทีมงาน 300 คน และทุกคนมีรายได้ในเดือนนั้นคนละ US$1,000 (รายได้รวมคือ US$1,000 x 300 คน=US$30,000) จะเห็นได้ว่า รายได้จากการคำนวณเพียงชั้นที่ 5 มีจำนวนถึง US$30,000 หรือกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งหากจะคำนวณทุก ๆ ชั้น จะพบว่าเป็นรายไดทางที่ 5 นี้เป็นรายได้ที่่มหาศาลเลยทีเดียว

ผลประโยชน์ 8 และ 9

Trip การท่องเที่ยว 3 – 4 ครั้ง ทุกปี ตั้งแต่ ตำแหน่ง Director เป็นต้นไป
ผลประโยชน์ที่ 1
ทางบริษัทฯ มีการจัดการท่องเที่ยวประจำปี โดยท่านจะได้รับเชิญ 2 ท่าน ตั้งแต่ตำแหน่ง Diamond ท่องเที่ยวแบบ สุดหรู VIP อีก 1 ครั้ง

ะลำบากใจหรือเปล่า ถ้าคุณไปเที่ยวต่างประเทศ ปีละหลายครั้ง ฟรีตลอดรายการ กินฟรี เที่ยวฟรี!!!

ผลประโยชน์ 10 – กองทุนรถเบนซ์

เป็นกองทุนที่ทางบริษัทฯจะจัดซื้อและผ่อนรถยนต์ให้แก่ท่าน เมื่อท่านมีตำแหน่งธุรกิจที่สูงขึ้นท่านก็จะได้รับรายได้ ในการผ่อนรถยนต์มากขึ้นตามลำดับ

 หมดแล้วครับรายละเอียดนำมาจากเว็บต่าง ๆ ที่ให้ข้อมูลอยู่สงสัยสอบถามได้ครับ